การจัดฟัน ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับรอยยิ้มจากฟันที่เรียงตัวสวยขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในวิธีรักษาทางทันตกรรมที่ช่วยดูแลสุขภาพช่องปากให้แข็งแรงในระยะยาว ลดการสะสมของเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่นำไปสู่ปัญหาภายในช่องปากมากมาย
ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดฟันได้พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีเครื่องมือให้เลือกใช้หลากหลายมากกว่าแค่การใช้ลวดโลหะเหมือนในสมัยก่อน ส่งผลให้ใครหลายคนสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าการจัดฟันมีกี่แบบกันแน่ หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังสงสัยแบบเดียวกันนี้อยู่ มาไขทุกข้อสงสัยได้ในบทความนี้กัน
‘การจัดฟันมีกี่แบบ’ เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยอยู่ไม่น้อย ในปัจจุบันนี้ โลกทันตกรรมได้แบ่งการจัดฟันออกเป็น 2 แบบหลัก คือ การจัดฟันแบบติดเครื่องมือแน่น และ การจัดฟันแบบถอดเครื่องมือออกได้ โดยการจัดฟันแต่ละแบบจะมาพร้อมกับเครื่องมือ อุปกรณ์ รวมถึงรายละเอียดในการรักษาที่แตกต่างกัน
มาเริ่มกันที่การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ หรือ เป็นการจัดฟันที่คนไข้จะไม่สามารถถอดอุปกรณ์ออกได้จนกว่าจะรักษาตามแผนให้เสร็จสิ้น ซึ่งการจัดฟันในลักษณะนี้จะประกอบไปด้วย 4 เทคนิคหลัก ดังนี้
การจัดฟันลวดโลหะ (Metal Braces) เป็นเทคนิคการจัดฟันที่มีลักษณะเป็นเหล็กจัดฟัน ซึ่งจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์ 4 ส่วนหลัก คือ
แม้จะมีอุปกรณ์หลายชิ้นที่อาจทำให้เกิดแผลในช่องปาก อีกทั้งยังต้องเข้ามาเช็กสภาพ และเปลี่ยนอุปกรณ์กับทันตแพทย์บ่อยครั้ง แต่การจัดฟันแบบลวดโลหะถือเป็นเทคนิคการจัดฟันที่มีราคาไม่สูงมาก
นอกจากนี้ การจัดฟันแบบลวดโลหะยังสามารถรักษาการเรียงตัวของฟันได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฟันเก ฟันซ้อน ไปจนถึงการรักษาภาวะฟันล่างคร่อมฟันบน
การจัดฟันดามอน (Damon System) เป็นการจัดฟันที่ทันตแพทย์ Dwight Damon พัฒนาต่อยอดมาจากการจัดฟันแบบโลหะปกติ ซึ่งจะมีอุปกรณ์เพียง 3 ชิ้น ประกอบไปด้วย
จะเห็นได้ว่า อุปกรณ์การจัดฟันแบบดามอนสามารถช่วยลดแรงเสียดทานของเครื่องมือจัดฟัน ทำให้คนไข้รู้สึกปวดฟันน้อยลง ทั้งยังจะช่วยให้เครื่องมือดึงฟันได้อย่างนุ่มนวล
อย่างไรก็ดี ด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งาน มีการใช้ลวดแบบลื่นเพื่อให้สามารถดึงฟันได้อย่างนุ่มนวล ตลอดจนการเลือกใช้วัสดุที่มีความทนทานและยืดหยุ่นสูง จึงทำให้การจัดฟันแบบดามอนมีราคาสูง อีกทั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนสีตัวยึด หรือ ลวดโลหะได้
การจัดฟันแบบเซรามิก หรือ การจัดฟันแบบเซรามิกใส เป็นการจัดฟันที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่แทนที่จะใช้วัสดุโลหะ ทันตแพทย์จะเปลี่ยนตัวแบร็กเก็ตเป็นวัสดุเซรามิกใส และ ใช้ตัวยึดเป็นยางที่มีสีใส ทำให้เครื่องมือมีสีใกล้เคียงกับฟันมากที่สุด แต่ลวดจัดฟันยังเป็นสีโลหะอยู่
การจัดฟันแบบเซรามิกได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ต้องการจัดฟันแบบไม่เห็นเครื่องมือชัดเจนมากนักและผู้ที่แพ้โลหะ โดยการจัดฟันประเภทนี้สามารถให้ผลลัพธ์การเรียงตัวของฟันเทียบเท่ากับการจัดฟันแบบโลหะอีกด้วย อย่างไรก็ดี การจัดฟันแบบเซรามิกจะมีราคาที่สูงกว่าการจัดฟันลวดโลหะ
การจัดฟันแบบติดเครื่องมือด้านในเป็นการจัดฟันที่ทันตแพทย์จะนำเครื่องมือทั้งหมดไปติดที่บริเวณหลังฟัน มีหลักการคล้ายกับการจัดฟันลวดโลหะและการจัดฟันเซรามิก โดยคนไข้สามารถเลือกติดตั้งเครื่องมือแบบโลหะ หรือ แบบเซรามิกได้ตามต้องการ
ในปัจจุบันนี้ การจัดฟันแบบติดเครื่องมือด้านในไม่ได้รับความนิยมแล้ว เนื่องจากต้องใช้เทคนิคพิเศษในการรักษา มีการวางแผนรักษาที่ซับซ้อนมาก ทั้งยังต้องใช้ทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการติดเครื่องมือด้านหลังฟันโดยเฉพาะ
ที่สำคัญ การติดเครื่องมือไว้ที่ด้านหลังฟันอาจทำให้ลิ้นเป็นแผล มีภาวะพูดไม่ชัด หรือ มีการหลั่งน้ำลายออกมาจำนวนมากจนรบกวนชีวิตประจำวัน จึงทำให้หลายคนเลือกเครื่องมือจัดฟันแบบอื่นแทน
หลังจากที่เข้าใจรายละเอียดการจัดฟันแบบติดแน่นไปแล้ว การจะตอบคำถามให้ครบทุกรายละเอียดว่า ‘การจัดฟันมีกี่แบบ’ ยังต้องทำความเข้าใจเรื่อง ‘การจัดฟันแบบถอดอุปกรณ์ได้’ เช่นกัน
ในปัจจุบันนี้ การจัดฟันแบบถอดอุปกรณ์ได้จะมีแค่ ‘การจัดฟันแบบใส’ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งจะมีรายละเอียด ดังนี้
การจัดฟันแบบใส (Invisalign) จะเป็นการจัดฟันด้วยการนำเครื่องมือพิเศษมาครอบฟันที่เรียกว่า Aligner ที่เป็นพลาสติกสีใส ช่วยให้ฟันค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่ต้องการ โดยปกติแล้ว สามารถทำให้ฟันเคลื่อนตัวได้ 0.25 มิลลิเมตรต่อพลาสติก 1 ชุด
ก่อนเริ่มการรักษา ทันตแพทย์จะเป็นผู้กำหนดระยะการเคลื่อนตัวของฟันที่เหมาะสม จากนั้นจึงออกแบบและหล่อ Aligner แต่ละชิ้นขึ้นมาตามรูปฟันของคนไข้ เมื่อครบระยะการเคลื่อนฟันที่กำหนดในแต่ละช่วง ทันตแพทย์ก็จะทำการเปลี่ยน Aligner ใหม่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจบการรักษา จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการจัดฟันแบบใสถึงต้องใช้ Aligner หลายชิ้น
อย่างไรก็ดี แม้จะสามารถถอดอุปกรณ์ได้ แต่การจัดฟันแบบใสจำเป็นที่จะต้องใส่เครื่องมือให้ได้อย่างน้อย 22 ชั่วโมง/วัน เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดี อีกทั้งยังต้องหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและคราบหินปูนด้วย
หมดสงสัย! การใส่ ‘รีเทนเนอร์’ ถือเป็นการจัดฟันแบบถอดอุปกรณ์ได้หรือไม่? รีเทนเนอร์ (Retainer) จัดเป็นเครื่องมือที่ช่วยควบคุมไม่ให้ฟันล้ม หรือ ฟันเคลื่อนตัวกลับมาที่ตำแหน่งเดิมหลังจากจัดฟันเสร็จ โดยคนไข้จะต้องใส่รีเทนเนอร์เป็นประจำทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 – 2 ปี อย่างไรก็ดี เครื่องมือชิ้นนี้ไม่ถือว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการจัดฟัน แต่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดฟันเท่านั้น |
เท่านี้ก็หมดสงสัยแล้วว่า การจัดฟันมีกี่แบบ และแต่ละแบบมีรายละเอียดในการรักษาอย่างไรบ้าง สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกจัดฟันแบบไหนดี ขอแนะนำให้ทำตามขั้นตอนพื้นฐาน ดังนี้
แม้จะเป็นฟันเหมือนกัน แต่ฟันและสุขภาพช่องปากของแต่ละคนก็มาพร้อมกับความซับซ้อนที่แตกต่างกัน ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกและงบประมาณควบคู่ไปกับผลลัพธ์ฟันเรียงตัวสวยในแบบที่ต้องการ คลินิกทันตแพทย์สว่าง คลินิกทันตกรรมอันดับ 1 ในรังสิตและปทุมธานี พร้อมช่วยคุณวางแผนการจัดฟันที่ถูกต้อง เห็นผลลัพธ์ และได้ประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่สภาพฟันและสุขภาพช่องปากจะเอื้ออำนวย ดูแลทุกผลลัพธ์ที่ต้องการโดยทันตแพทย์ประสบการณ์ระดับอาจารย์นานกว่า 45 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Line : @swcdental (มี @ ด้วย) หรือ โทร. 064-465-0565