ด้วยหลากหลายปัจจัย ทั้งอายุที่เพิ่มขึ้น พฤติกรรมการใช้ชีวิต อาจทำให้เกิดความเสียหายกับฟันแต่ละซี่ได้ ด้วยเหตุนี้ เพื่อรักษาทั้งความมั่นใจ คุณภาพการใช้ชีวิต และสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง การทดแทนฟันที่เสียหายไปด้วยการทำรากฟันเทียมจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ควรค่าแก่การพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง
แล้วรากฟันเทียมคืออะไร มีกี่แบบ? รวมถึงควรวางแผนการรักษาและเลือกคลินิกรากฟันเทียมอย่างไรให้ตอบโจทย์ มาไขทุกข้อสงสัยพร้อมกันได้ในบทความนี้
ฟันแต่ละซี่ ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับรอยยิ้ม และช่วยให้สามารถออกเสียงได้อย่างชัดเจนเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่หลักในการบดเคี้ยวอาหาร ทำให้ส่งผลดีต่อระบบย่อย จึงช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาวได้
ด้วยเหตุนี้ เมื่อฟันแต่ละซี่เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นการแตกหัก หลุดร่วง หรือเกิดการติดเชื้อจนทำให้ต้องสูญเสียฟัน ย่อมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ ตามมา ทำให้เราต้องหาวิธีรักษาด้วยการทดแทนฟันที่หายไปให้ใช้งานได้เป็นปกติ เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกเช่นเดิม
สำหรับการรักษารากฟันเทียมนั้น คือการรักษาทางทันตกรรมที่ช่วยทดแทนฟันที่สูญหายและเสียหายจากสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งยังช่วยให้สามารถบดเคี้ยวและรับประทานอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
การทำรากฟันเทียม คือ การสร้างฟันซี่ใหม่ที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมฟันแท้ มีโครงสร้าง 3 ส่วนหลัก ซึ่งจะประกอบไปด้วย
การแบ่งประเภทการรักษารากฟันเทียมสามารถทำได้หลายวิธี แต่โดยพื้นฐานแล้ว การรักษารากฟันเทียมจะมีด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ซึ่งจะมีรายละเอียดแตกต่างกัน ดังนี้
หลังจากที่ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า รากฟันเทียมคืออะไรและมีกี่แบบในการรักษา แต่ใครที่กำลังสงสัยว่า คลินิกรากฟันเทียมจะวางแผนการรักษาในแต่ละเคสอย่างไร มีรายละเอียดส่วนไหนที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษบ้าง ลองมาทำความรู้จักกับ 5 ขั้นตอนการรักษารากฟันเทียม ดังนี้
ประสิทธิภาพในการรักษารากฟันเทียมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขภาพและปริมาณกระดูกของผู้ที่เข้ารับการรักษา ดังนั้น หลังจากที่ประเมินปัจจัยด้านสุขภาพ ประวัติในการเป็นโรคต่าง ๆ แล้ว ทันตแพทย์จะทำการเอกซเรย์เพื่อใช้วางแผนการรักษา
หลังจากที่เอกซเรย์ ทันตแพทย์จะพิจารณาถึงความหนาและบางของกระดูกขากรรไกรในบริเวณที่ต้องการ ฝังรากฟันเทียม โดยหากกระดูกมีความบางเกินไปที่จะใส่รากฟันเทียม ทันตแพทย์จะทำการปลูกถ่ายกระดูก หรือ ทำ Bone Graft เพื่อช่วยให้รากฟันเทียมมีกระดูกล้อมรอบทั้งหมดเพื่อการยึดเกาะได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และลดการเกิดปัญหาเหงือกอักเสบในอนาคต ซึ่งโดยปกติแล้วที่คลินิกทันตแพทย์สว่าง เราจะทำการฝังรากฟันเทียมพร้อมกับการปลูกกระดูกในครั้งเดียวกัน ทำให้คนไข้ทำการผ่าตัดเพียงครั้งเดียว ลดระยะเวลาในการรักษาลง ได้ฟันจริงเพื่อบดเคี้ยวเร็วขึ้น และที่สำคัญคือแผลเล็ก เจ็บน้อย
ทันตแพทย์จะทำการปลูกกระดูกพร้อมกับการฝังรากฟันเทียม ในขั้นตอนนี้ หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์แล้ว ทันตแพทย์จะผ่าตัดเหงือก ใส่กระดูก,ฝังรากฟันเทียมลงไปที่กระดูกขากรรไกร จากนั้นจึงใช้ Healing Cap ซึ่งเป็นโลหะรูปทรงกรวยครอบลงไปที่รากฟัน สุดท้ายจึงเย็บปิดแผล
หลังจากที่รากเทียมผสานตัวเข้ากับกระดูกขากรรไกรและเนื้อเยื่อรอบเหงือกแล้ว ทันตแพทย์จะทำการนัดมาติดตั้งครอบฟัน โดยส่วนใหญ่แล้ว ขั้นตอนนี้จะรอเวลา 2 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับสุขภาพช่องปากและการฟื้นตัวของคนไข้ ในระหว่างที่รอติดตั้งครอบฟันนี้ คนไข้จะต้องรักษารากฟันเทียมให้ดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อและเพื่อป้องกันไม่ให้รากฟันเทียมเกิดการกระทบกระเทือน
อย่างที่กล่าวไปว่า การรักษารากฟันเทียม คือ การติดตั้งฟันซี่ใหม่ให้กับบริเวณที่มีการสูญเสียฟัน ดังนั้น หลังจากที่รากฟันผสานเข้ากับกระดูกขากรรไกรและเนื้อเยื่อแล้ว ทันตแพทย์จะนัดมาพิมพ์ฟันและสั่งผลิตครอบฟัน จากนั้น 1 สัปดาห์จึงทำการติดตั้งครอบฟันตามวัสดุที่ได้ทำการเลือกเอาไว้
เมื่อครอบฟันเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทันตแพทย์จะทำการติดตั้งแกนฟัน (Abutment) ที่บริเวณรากเทียม จากนั้นจึงยึดครอบฟัน เข้ากับแกนฟัน เท่านี้ก็จะได้ฟันซี่ใหม่ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับฟันแท้และตอบโจทย์คุณภาพชีวิตเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อทำครอบฟันเสร็จเรียบร้อย คลินิกรากฟันเทียมจะทำการนัดตามผลการรักษา 1 อาทิตย์แรกหลังจากยึดครอบฟัน จากนั้นจึงนัดตรวจสภาพของรากฟันเทียม และเอ็กซเรย์เป็นประจำทุกปีเพื่อดูความเสียหายและอาการข้างเคียงอื่น ๆ ต่อไป
การรักษารากฟันเทียม คือ การผ่าตัดรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น ก่อนที่จะเข้ารับการติดตั้งรากฟันเทียม ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และรับประทานอาหารอ่อนอย่างน้อย 1 มื้อก่อนการใส่รากฟันเทียม
เมื่อผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย อย่าลืมประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมหลังผ่าตัด อีกทั้งยังควรงดเว้นการรับประทานอาหารรสจัดและอาหารที่ต้องใช้แรงบดเคี้ยวสูง เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการอักเสบของแผล
นอกจากนี้ คนไข้ยังควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ 3 – 4 ครั้ง/วัน งดการสูบบุหรี่จนกว่าแผลจะหายดี และควรสังเกตแผลรากฟันเทียมเป็นประจำ หากพบอาการผิดปกติ แนะนำให้รีบกลับมาพบทันตแพทย์ทันที
คำตอบ: คนไข้ควรจัดฟันให้เสร็จเรียบร้อยและทำการถอดเครื่องมือก่อน จากนั้นจึงวางแผนการรักษารากฟันเทียมต่อได้ เนื่องจากรากฟันเทียมเป็นวัสดุที่ติดกับกระดูกขากรรไกรถาวร จึงไม่สามารถใช้เครื่องมือจัดฟันขยับรากฟันเทียมได้เหมือนฟันตามธรรมชาติ
คำตอบ: การทำรากฟันเทียมโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
อย่างไรก็ดี การรักษารากฟันเทียมไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุน โรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ นอกจากนี้ ผู้ต้องทานยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวเพื่อหยุดยาก่อน การรักษา
คำตอบ: หากเนื้อกระดูกขากรรไกรบาง อ่อนตัว หรือมีภาวะละลายของกระดูกอยู่ ทันตแพทย์จะแนะนำให้ทำการปลูกกระดูกร่วมด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วสามารถปลูกกระดูกพร้อมกับผ่าตัดใส่รากเทียมได้ในครั้งเดียวกัน
จะเห็นได้ว่า การรักษารากฟันเทียมเป็นหนึ่งในการรักษาที่มีความซับซ้อน ทั้งยังต้องอาศัยความรู้และความเชี่ยวชาญในการประเมินและวางแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
คลินิกรากฟันเทียม ทันตแพทย์สว่างเป็นคลินิกรักษารากฟันเทียมที่ดีที่สุดใน ย่าน รังสิต ปทุมธานี คลองหลวงที่ให้บริการรักษาโดยทันตแพทย์เฉพาะทางระดับอาจารย์ประสบการณ์กว่า 40 ปี ทั้งยังเป็นทันตแพทย์คนเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจากสภาทันตแพทย์สหรัฐอเมริกา และเป็นทันตแพทย์เพียงหนึ่งเดียวในเอเชียแปซิฟิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการใส่ฟันและรากฟันเทียม พร้อมมีการรับประกันฟันเทียมนานถึง 5 ปี มั่นใจในผลลัพธ์และประสิทธิภาพการรักษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Line : @swcdental (มี @ ด้วย ) หรือ โทร. 064-465-0565